ถึงคราวที่จะต่อประกันรถยนต์ครั้งถัดไปแล้วสิ แต่เหมือนจะมีประกันหลาย ๆ รูปแบบมาให้เลือกกันเยอะแยะมากมายซึ่งบางตัวก็ให้เบี้ยประกันที่ถูกกว่ากับรูปแบบประกันที่เราใช้อยู่ แล้วแบบนี้เราควรจะไปต่อกับประกันเดิม หรือพอแค่นี้แล้วเลือกทำประกันกับที่ถูกกว่าดีละ ไม่ต้องกังวลไปวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบ ประกันรถ แต่ละชนิดให้ทุกคนได้พิจารณากัน เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจให้กับแก่คุณ 

เปรียบเทียบ ประกันรถ สิ่งที่สำคัญสำหรับรถของคุณ 

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด และได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยประกันชนิดนี้จะให้ความคุ้มครองทั้งตัวรถของผู้ซื้อประกัน และตัวคู่กรณี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลทั้งตัวผู้ซื้อประกัน คู่กรณี และผู้โดยสารภายในรถ นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองไปถึงกรณีที่ตัวรถเกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม พายุถล่ม แผ่นดินไหว ไฟไหม้เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นประกันที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ 

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่ตัวรถเกิดการเฉี่ยวชนกับคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบก หากรถเกิดเฉี่ยวชนกับวัตถุที่ไม่มีคู่กรณีเช่น ฟุตบาท กำแพง ประตู ท่อระบายน้ำ ประกันจะไม่รับผิดชอบในส่วนนี้ และเจ้าของผู้ซื้อประกันจะต้องเป็นผู้ออกค่าเสียหายเอง แต่ประกันยังคุ้มครองในกรณีที่ตัวรถเกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติเหมือนกันกับ ประกันรถ ยนต์ชั้น 1 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองครอบคลุมใกล้เคียงกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่จะแตกต่างกันตรงที่ตัวประกันจะคุ้มครองค่าเสียหายแต่รถของคู่กรณีเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้ซื้อประกันจะต้องจ่ายค่าซ่อมแซมที่เกิดขึ้นกับรถของตัวเองทั้งหมด 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถ ยนต์ชั้น 3 + คือประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกันกับประกันรถยนต์ชั้น 2+ แต่ประกันประเภทนี้จะไม่คุ้มครองในกรณีที่รถเกิดการสูญหายจากการโจรกรรม เสียหายจากไฟไหม้ และเสียหายจากภัยธรรมชาติ โดยที่เบี้ยประกันนั้นจะถูกกว่าทั้งประกันภัยชั้น 1 และ 2+ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถไม่มาก หรือเป็นรถสำรองที่ไม่ค่อยใช้งานนั่นเอง 

อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อ ประกันรถ ที่เข้ากับสไตล์การขับขี่ของแต่ละคนนั้น จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังทำให้การใช้รถของคุณนั้นเป็นไปได้อย่างมั่นใจมากที่สุด นอกจากนี้ผู้ซื้อประกันยังต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของรถด้วยว่าเหมาะสมจะทำประกันชนิดนั้นหรือไม่ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานรถยนต์ของตัวคุณเอง